teafortwojazz.com

teafortwojazz.com

การ Boost Post

เคยยิงโฆษณา Facebook Ads กันไหม? หลายคนที่ได้ฟังคำถามนี้อาจจะตอบอย่างมั่นใจว่า "เคยใช้" ผ่านการเสียเงินให้กับปุ่ม "Boost Post" ความจริงแล้วการ "Boost Post" ไม่ใช่การยิงโฆษณา "Facebook Ads" หลังจากเห็นข้อความด้านบน เชื่อว่าหลาย ๆ คนอาจจะตกใจ เพราะทุกครั้งที่เสียเงินไปกับการ Boost Post ก็นึกว่ามันคือการยิง Facebook Ads มาโดยตลอด แต่ ความจริงแล้วการ Boost Post และการยิงโฆษณาผ่าน Facebook Ads นั้นเป็นคนละเรื่องกัน แค่มีความคล้ายกันเท่านั้น แล้ว Boost Post กับ Facebook Ads ต่างกันอย่างไร? Boost Post คืออะไร? "Boost Post " คือการกดโปรโมตโพสต์บนหน้า Timeline ของ Facebook Page เราเพื่อให้โพสต์นั้น ๆ ของเรา เข้าถึงคนได้มากขึ้น ซึ่งการแสดงผลจะออกมาเหมือนกับ Facebook Ads ตัวอย่างการแสดงผลของการ Boost Post และนั่นอาจจะเป็นสาเหตุ ที่ทำให้ทุกคนสับสน และเข้าใจผิดไปว่าการเสียเงิน Boost Post คือการยิงโฆษณา Facebook Ads ด้วยความที่การแสดงผลออกมามีหน้าตาที่เหมือนกัน แต่ในความเหมือนกันตรงนั้น แท้จริงมีความแตกต่างกันอยู่ แต่ก่อนหน้าที่เราจะไปดูว่ามันต่างกันอย่างไร เรามาทำความเข้าใจการ Boost post กันก่อนครับ การ Boost Post มีเป้าหมายเพื่ออะไร?

  1. Boost Post กับ Facebook Ads ต่างกันอย่างไร เลือกใช้ยังไงให้ได้ผล

Boost Post กับ Facebook Ads ต่างกันอย่างไร เลือกใช้ยังไงให้ได้ผล

การ boost post tracking การ boost post fb
ไปที่เพจเฟซบุ๊กของคุณในแอปเฟซบุ๊ก หรือเว็บไซต์ m. 2. เลื่อนหาโพสต์ที่คุณต้องการจะบูสต์ แล้วกดบูสต์โพสต์ (Boost Post) 3. จะเจอหน้าจอพรีวิวตัวอย่างโฆษณา ให้คุณตรวจสอบก่อนว่านี่เป็นโพสต์ที่คุณอยากจะบูสต์หรือเปล่า และหน้าตาของโฆษณาเมื่อไปขึ้นที่หน้าจอคนอื่นจะเป็นแบบไหน ถ้าใช่ก็เลื่อนลงมาข้างล่างก่อน เพื่อตั้งค่าแคมเปญโฆษณา 4. ตั้งค่าโฆษณาของคุณเสียก่อน สำคัญมาก ห้ามพลาด ไม่งั้นจะเสียเงินฟรีๆ โดยสิ่งที่แตกต่างระหว่างการบูสต์โพสต์ผ่านมือถือกับบูสต์โผสผ่านหลังบ้านเฟสบุ๊กคือความละเอียดในการตั้งค่า บนมือถือก็จะง่าย มีอะไรให้ตั้งค่าได้ไม่เยอะ เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น แต่ผลลัพธ์โฆษณาอาจไม่ดีเท่ากับการบูสต์หลังบ้าน ที่จะเซทได้ละเอียด เดี๋ยวการบูสต์หลังบ้านเราจะมาสอนอีกทีในภายหลัง 4. 1ตั้งค่าวัตถุประสงในการโฆษณา สำหรับมือถือจะมีให้เลือก 3 แบบคือ Automatic เฟซบุ๊กจะเลือกวัตถุประสงค์ให้เองด้วย AI ของเขา (ไม่ค่อยแนะนำ เพราะโฆษณาจะวิ่งไปค่อนข้างมั่ว เปลืองตังค์ Get more Website Visitors เหมาะสำหรับคนที่ต้องการส่งคนไปยังเว็บไซท์ของตัวเอง ร้านค้าใน Shopee Lazada หน้าร้านออนไลน์อื่นๆ หรือแม้แต่กระทั่ง YouTube Get More engagement เหมาะสำหรับคนที่อยากให้คนมากดไลค์หรือคอมเมนท์ในเพจเยอะๆ บนคอมพิวเตอร์หรือหลังบ้านจะมีวัตถุประสงค์อื่นๆให้เลือกเพิ่มเติมอีกเยอะมาก แต่สำหรับร้านค้าหน้าใหม่ 3 วัตถุประสงค์นี้ก็พอเพิ่มยอดขายให้คุณได้แล้วนะ!

4 ยอดการชมวิดีโอ (Video View) คือ เป้าหมายในการเพิ่มยอดเข้าชมวิดีโอที่เราได้ทำการโพสต์ไว้ สำหรับเป้าหมายที่มีโอกาสกดดูสูง ตัวอย่าง Lead Ads ของ Facebook Ads ที่มา 2. 5 ข้อมูลลูกค้า (Lead Generation) คือ เป้าหมายในการเก็บข้อมูลของผู้ใช้ ที่มีโอกาสเป็นไปได้ในการกลายเป็นลูกค้าสูง เช่น การยิงโฆษณา Facebook Ads เพื่อให้เกิดการลงทะเบียน 2. 6 ข้อความ (Message) คือ เป้าหมายในการกระตุ้นให้เกิดการส่งข้อความเข้ามาถามรายละเอียดต่าง ๆ ของสินค้า และ บริการ ตัวอย่าง Facebook Ads เพื่อกระตุ้นให้ส่งข้อความ 3. การกระทำบางอย่างที่เราต้องการ (Conversion) 3. 1 การกระทำตามที่เราต้องการ (Conversions) เป้าหมายนี้คือการเพิ่มยอดการทำอะไรสักอย่างที่เราต้องการให้ลูกค้า หรือ ผู้ใช้คนนั้น ๆ ทำ ซึ่งเป็นได้ทั้ง การเพิ่มสินค้าลงตะกร้า การลงทะเบียน และ การซื้อ เป็นต้น 3. 2 ยอดขายในแคตตาล็อก (Catalogue Sales) คือ เป้าหมายในการเพิ่มยอดขาย ของสินค้าที่อยู่ในหน้าแค็ตตาล็อกบน Facebook 3. 3. เพิ่มยอดการเข้าร้านค้า (Store Traffic) คือ เป้าหมาย ในการเพิ่มยอดผู้เข้าชมร้านค้า ซึ่งมักจะเหมาะกับการยิงโฆษณา ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ทั้งนี้ ในการเริ่มต้นยิงโฆษณา Facebook Ads เราสามารถทำได้ผ่านการใช้งานเครื่องมือที่ชื่อว่า " Facebook Ads Manager" ซึ่งเป็นเครื่องมือที่จะทำให้เราสามารถบริหารจัดการ สร้างโฆษณา และระบุว่ากลุ่มเป้าหมายคือใครได้ในเครื่องมือเดียว ตัวอย่างหน้าตาเครื่องมือ Facebook Ads Manager Boost Post กับ Facebook Ads แตกต่างกันอย่างไร?

Boost Post คือ การส่งเสริมโพสต์ให้คนอื่นเห็นมากขึ้น เพราะทุกวันนี้เวลาโพสต์อะไรลงไปในแฟนเพจของตัวเอง อัตราส่วนคนเห็นจะน้อยมาก สมมติว่าแฟนเพจของคุณมีคนกดไลก์ 5, 000 คน แต่คนเห็นโพสต์ 1 โพสต์ของคุณ อาจจะไม่ถึง 500 คน หรือ 10% เลยด้วยซ้ำเราจึงจำเป็นต้องใช้วิธีการ Boost Post เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายที่ตรงกับแฟนเพจของเราได้มีโอกาสเห็นโพสต์นั้นจริงๆ จะนำไปสู่การปิดการขายได้ดียิ่งขึ้น โดยจะมีรายละเอียดลงลึกถึงขั้นที่กำหนดได้ว่าการส่งเสริมโพสต์นั้นจะโฆษณาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแบบไหน จำแนกได้ตั้งแต่เพศ ช่วงอายุ ไปจนถึงขั้นความชื่นชอบได้เลยทีเดียวนะ วิธีการ Boost Post? บอกเลยว่าไม่ยาก สมมติว่าเราทำโพสต์โปรโมทสินค้าโปรโมชันเสื้อลูกไม้ 2 ตัว จัดส่งฟรีทั่วประเทศ 1. มองหาโพสต์ที่เราต้องการ Boost แล้วกดที่ปุ่ม Boost Post เข้าไปเลย 2. กำหนดกลุ่มเป้าหมาย ขั้นตอนนี้ ทำได้ละเอียดมากๆ 2. 1 กำหนดเพศของกลุ่มลูกค้า ก็คือ เพศหญิง 2. 2 กำหนดช่วงอายุของคนที่คาดว่าจะซื้อ ประมาณ 15-34 ปี 2. 3 กำหนดที่ตั้งของกลุ่มลูกค้าที่คิดว่าจะอาศัยอยู่ สมมติว่าจะขายเฉพาะประเทศไทย 2. 4 วิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ซื้อ แล้วเจาะเข้าไปที่ความสนใจ เช่น วิเคราะห์ผู้ซื้อว่าจะต้องชอบเรื่องเสื้อผ้า ชอบเรื่องไลฟ์สไตล์ ชอบดูละคร และชอบโปรโมชันแน่ๆ เราก็นำคำค้นหาเหล่านี้ ได้แก่ เสื้อผ้า, ไลฟ์สไตล์, ละคร, โปรโมชัน ที่คาดว่าจะตรงกับกลุ่มเป้าหมายใส่ลงไป แล้วกด 'บันทึก' * สังเกตให้ดีว่า ข้างใต้จะมีข้อความว่า "กลุ่มเป้าหมายโดยประมาณของคุณ กำหนดไว้แล้ว xxxxx! "

เลือกวัตถุประสงค์บน Facebook ได้มากถึง 11 วัตถุประสงค์ ซึ่งแต่ละวัตถุประสงค์มีการทำงานที่แตกต่างกัน โดยสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมเช่น ต้องการคนเข้าเว็บไซต์ อาจจะเลือกใช้หมวด " การเข้าถึง " ซึ่งจะเน้น Impression หรือ การสร้าง Traffic เข้าเว็บเป็นต้น 2. สามารถทำ A/B test เพื่อทำนายแนวโน้มของโฆษณาได้ หากมีแนวโน้มไม่ดี สามารถปรับแก้ไขตัว ชิ้นงาน หรือ กลุ่มเป้าหมายได้ ก่อนที่จะเสียเงินทำโฆษณาผิดพลาด 3. เลือก รูปแบบโฆษณา ได้หลากหลาย ช่วยให้แบรนด์มีความน่าเชื่อถือและเพิ่มความสะดวกในการนำเสนอแก่กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย 4. เลือก ตำแหน่งจัดวางโฆษณาได้ อย่างเหมาะสม คุ้มค่า และได้ประสิทธิภาพสูงสุด 5.

สมัยก่อนการลงโฆษณา สื่อ/สำนักข่าวต้องทำหน้าที่ในการเขียน รีวิว ตรวจสอบ ไปจนถึงการกระจายเนื้อหานั้นๆ ออกไป แต่ยุคนี้แพลตฟอร์มอย่าง Facebook มีอิทธิพลมาก ผ่านการ Boost Post ที่เจาะจงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน อยากให้คนเห็นเยอะๆ Boost Post สิ จะรออะไร!

  1. เจ ล เลือด มังกร
  2. Boost post ง่ายๆ "สไตล์แม่ค้ามือใหม่" - Post Family
  3. ต้องการขอสินเชื่อธกส 2565 โควิดอนุมัติง่ายไหม วิธีกดเงิน ธกสทำอย่างไรบ้าง baac family ธกสลงทะเบียนอย่างไรบ้าง - เปรียบเทียบแหล่งกู้เงินได้จริงในออนไลน์ที่เว็บไซต์ aahri.in.th
  4. ลาดกระบัง 46 2 27 core 161
  5. การ boost post de blog
  6. 6 เคล็ดลับการบูสต์โพส Facebook ไม่ให้เสียเงินเปล่า
  7. วิธีการ Boost Post Facebook เพื่อเพิ่มยอดการเข้าถึง เพิ่มยอดขาย สำหรับแม่ค้าและนักการตลาดออนไลน์มือใหม่ - TOUCHPHONEVIEW
  8. ไอ โฟน se 2021ราคา
  9. นาฬิกา j axis ราคา
  10. เลขลุ้นโชค หวยเสือตกถังพลังเงินดี งวดวันที่ 16/2/65 » LOTTOSHUAY

สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ที่อยากจะขายของผ่านเฟซบุ๊ค การบูสต์โพสต์เป็นจุดเริ่มต้นง่ายๆ ที่จะทำให้คุณมีโฆษณาไปแสดงยังลูกค้าที่ใช้งานเฟสบุ๊คอยู่ และยังสามารถใช้เพื่อเป็นการทดลองสินค้าในตลาดอีกด้วย ว่าจะมีคนสนใจสินค้าของคุณไหม ซึ่งคุณสามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ ด้วยเงินเพียง 35 บาทต่อวัน (ประมาณ 1 usd) ก็สามารถบูสต์ได้แล้ว!

เลือกวิธีจ่ายเงิน สุดท้ายคือการเลือกวิธีจ่ายเงิน โดยปัจจุบันจะมีสองวิธีคือ จ่ายผ่านบัตรเครดิต หรือจ่ายผ่าน PayPal ดังนั้นถ้าอยากซื้อโฆษณาเฟซบุ๊กให้คุ้มๆ ก็ควรมี บัตรเครดิตประเภทเงินคืน หรือสะสมแต้มมาใช้ในการจ่ายเงิน เพื่อให้เราซื้อโฆษณาได้คุ้มค่าที่สุด แล้วก็เฟซบุ๊กจะบอกเราด้วยว่าโฆษณาเราจะแสดงกี่วัน และใช้เงินทั้งหมดเท่าไหร่ ซึ่งมันจะไม่เกินนี้ ดังนั้นตรวจสอบให้ดี 7. กดปุ่ม Boost Post Now เป็นอันเสร็จสิ้น ขั้นตอนสุดท้ายคือการกดปุ่ม Boost Post Now คือถ้าเราทำการตั้งค่าทุกอย่างโดยถูกต้อง ก็กดที่ปุ่ม Boost Post Now สีฟ้าๆ ได้เลย โดยอาจจะใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 24 ชั่วโมง – 48 ชั่วโมง แคมเปญโฆษณาของคุณก็จะแสดงผลได้แล้ว! หากคุณใช้เฟซบุ๊กภาษาไทย ก็อาจจะขึ้นข้อความคนละแบบกับที่เราเห็น แต่วิธีคิดในการยิงแอดเฟซบุ๊กผ่านมือถือก็คล้ายๆกัน สามารถใช้อ้างอิงได้ ทั้งนี้เราแนะนำให้ใช้ภาษาอังกฤษมากกว่า เพราะจะได้ฟังชั่นที่ครบสมบูรณ์มากกว่าภาษาไทย คำถามที่พบบ่อย ทำไมลงโฆษณาไม่ได้? โฆษณาอาจจะผิดกฏเฟซบุ๊ก ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือโฆษณาที่ผิดกฏหมายนั่นเอง บัญชีของคุณใหม่เกินไป หรือชื่อ นามสกุล ดูไม่ใช่บุคคลแท้ๆ ต้องมีการยืนยันตัวตนก่อน บัตรเครดิตไม่สามารถใช้งานซื้อแอดได้ ควรลงเงินยิงแอดวันละเท่าไหร่?

4. 2 เลือกกลุ่มเป้าหมายที่จะทำการโฆษณา สำคัญไม่แพ้กัน หากคุณไม่แก้ไข โฆษณาของคุณจะแสดงไปยังทุกคนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย อายุ 18 – 65+ ซึ่งก็แทบจะไม่ได้เจาะจงอะไรเลย เหตุที่คนอยากลงโฆษณาบูสต์โพสต์ในเฟซบุ๊กก็เพราะอยากลงโฆษณาแบบเจาะกลุ่มคน ดังนั้นให้กด Edit เพื่อแก้ไขกลุ่มเป้าหมาย หรือหากเพจของคุณมีฐานแฟนเพจค่อนข้างเยอะ ก็เลือกใช้ People Who like your Page ไปเลยก็ได้ เพื่อให้โฆษณาเข้าถึงกลุ่มคนที่เคยกดไลค์แฟนเพจของคุณ ซึ่งถือว่าเป็นฐานลูกค้าชั้นดี!

เอาจริงๆ เราก็ต้องใช้มันทั้งสองอย่างนั่นแหละครับ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และเป้าหมายของเพจ เช่น ถ้าเพิ่งเปิดเพจใหม่ เราก็อาจจะต้องเน้นการสร้างฐานแฟนให้โตเร็วที่สุดก่อน จึงควรเลือกใช้ Like Ad เป็นโฟกัสแรก สำหรับเพจที่มีฐานแฟนมากระดับหนึ่งแล้วต้องการโปรโมทคอนเทนต์ โปรโมทสินค้าใหม่กับฐานแฟนเดิม ก็ใช้ Boost Post ไป ธุรกิจบางธุรกิจไม่เน้นให้คนมาตามไลค์ เช่นประกาศขายคอนโด อาจจะเน้น Boost เป็นหลักแทน (คนเราไม่ได้ซื้อคอนโดกันบ่อยๆ) ทั้งนี้ผมยังย้ำเสมอว่ามันไม่มีสูตรตายตัว ซึ่งเราก็สามารถเอามาพลิกแพลงใช้ได้ตามแต่ที่จะคิดกลยุทธ์ขึ้นมาต่างหาก แล้วทำไมเขา Boost แล้วแฟนเพิ่มกันเยอะ? เคสนี้ถ้าจะอธิบายแบบหลักจิตวิทยาง่ายๆ คือบางโพสต์นั้นถูก Boost ไป "โดนใจ" และทำให้คนที่อ่านรู้สึก "อยากติดตาม" จนกดไลค์เพจเพิ่ม แต่ทั้งนี้ก็ต้องบอกก่อนว่าไม่ใช่ทุกคนที่อ่าน กดไลค์โพสต์ หรือกดแชร์จะกดไลค์เพจกันทุกคน ลูกค้าบางคนอาจจะสนใจแต่ซื้อครั้งเดียวโดยไม่ได้อยากกดไลค์ติดตาม อีกทั้งเคสแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเสมอไปด้วย มันมีปัจจัยหลายๆ อย่างเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ถ้าใครใช้วิธีคิดแบบ Content Marketing ดีๆ ก็จะสามารถใช้จุดนี้สร้างโอกาสได้เยอะอยู่ เพราะถ้าทำคอนเทนต์ดีๆ อย่างต่อเนื่องก็จะมีเหตุผลให้คนอยากมาติดตามเพิ่มนั่นเอง

  1. ครีม ทา ผิว clarins skin
  2. ลด ขนาด หน้าอก รีวิว pantip
  3. ฮานอย 29 10 62
  4. ลบรอย ยุง กัด
  5. เมนู ปลา ด อ ล ลี่ ง่ายๆ
  6. ภาพ วาด ขนม หวาน คอร์ด
  7. สทอภ
  8. ข้าว ตรา ส้ม โอ แม็คโคร ราคา
  9. Dell inspiron 3264 ราคา bitcoin
  10. สวนดอกไม้ในบ้าน
  11. Moment villa ระยอง san
  12. แบบ ยื่น ภาษี บุคคลธรรมดา
  13. ก ง กรรม 11 janvier
  14. เสื้อ iron maiden 1982 436x vol 59
  15. ตรวจสลากกินแบ่งรัฐบาล 1 กรกฎาคม 25640
  16. ยศ เกม sf
  17. พระราธเถระ